แล้วหนูกระโดดก็รีบเริ่มสำรวจที่ใหม่แถวนั้นทันที ที่นี่มีสิ่งต่างๆมากกว่าที่อื่นๆเสียอีก
มีเมล็ดธัญพืชมากมายและทุกอย่างที่หนูชอบ พอสำรวจไปสักพักก็ไปเจอหมาป่าสีเทาตัวหนึ่งนั่งนิ่งๆอยู่เฉยๆ
“สวัสดีจ้า พี่หมาป่า” หนูกระโดดทัก
หูของหมาป่าตั้งผึ่งขึ้น ตาก็เปล่งประกาย “วู้ฟ วู้ฟ ใช่ ฉันคือหมาป่า” แต่สักพักเสียงก็หรึ่เบาลง แล้วมันก็กลับไปนั่งเงียบเชียบเหมือนเดิม และหลงลืมว่ามันคือใคร เวลาหนูกระโดดเตือนให้มันจำได้ว่ามันคือใคร มันก็จะตื่นเต้นกับถ้อยความใหม่ที่ได้รับ แต่แล้วก็จะหลงลืมไปอีกทุกครั้ง
“ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่งดงามยิ่ง” หนูกระโดดรำพึง “แต่เสียดายที่ไม่มีความทรงจำเลย”
หนูกระโดดเดินไป ณ ศูนย์กลางของพื้นที่นั้นอย่างเงียบๆ แล้วสดับฟังเสียงภายในของตัวเองอย่างเนิ่นนาน และแล้วก็ตัดสินใจ ค่อยๆเดินกับไปนั่งลงข้างๆหมาป่า แล้วกล่าวว่า
“พี่หมาป่าจ๋า” หนูกระโดดพูด “วู้ฟ วู้ฟ” หมาป่าขานรับ
“ช่วยฟังฉันหน่อยนะ ฉันรู้ว่าอะไรที่จะช่วยรักษาพี่ให้หายได้ มันคือดวงตาข้างหนึ่งของฉันนั่นเอง ฉันอยากจะมอบให้พี่นะ พี่ช่างเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่งดงามกว่าฉันเป็นไหนๆ ฉันเป็นเพียงหนูเล็กๆตัวนึง พี่รับไปเถอะนะ”
ทันทีที่กล่าวจบ ดวงตาข้างที่เหลือของหนูก็หลุดออกไปรักษาให้หมาป่าได้รับความสมบูรณ์ขึ้นมาทันที
น้ำตาหมาป่าไหลพราบอาบแก้ม อนิจจาเจ้าหนูน้อยมองไม่เห็นความปีติดีใจอันลึกซึ้งของหมาป่า เพราะบัดนี้โลกทั้งใบมืดสนิท
“เจ้าช่างเป็นน้องชายที่แสนดีเหลือเกิน เจ้าหนูน้อย” หมาป่ากล่าว “เพราะช่วยให้ฉันได้ความทรงจำกลับคืนมา แต่มันทำให้เจ้าต้องตาบอดไป ฉันจะนำทางเจ้าไปยังยอดแห่งเขาศักดิ์สิทธิ์นี้เอง ฉันจะพาเจ้าไปที่นั่น ที่ที่มีทะเลสาปทิพย์ที่สวยที่สุดในโลก โลกทั้งใบสะท้อนเงาบนพื้นน้ำแห่งทะเลสาปนี้ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าชนต่างๆ ดินแดนแว่นแคว้นของพวกเขา และสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ทั้งในทุ่งหญ้าใหญ่และบนฟ้าต่างมีเงาสะท้อนที่นี่”
“ช่วยพาฉันไปหน่อยนะ” หนูกระโดดร้องขอ…
แล้วหมาป่าก็พาเจ้าหนูลัดเลาะไปตามป่าสนไปจนถึงทะเลสาบแห่งการเยียวยา หนูกระโดดดื่มน้ำจากทะเลสาบ หมาป่าบรรยายความสวยงามของที่นั่นให้หนูฟัง
“ฉันต้องไปแล้วล่ะ” หมาป่าบอก “เพื่อจะกลับไปพาคนอื่นๆที่ปรารถนามาที่นี่เช่นกัน”
หนูกระโดดนั่งลงและสั่นด้วยความกลัว ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะออกวิ่งด้วยตาบอดเช่นนี้ มันรู้ดีว่าในที่สุดนกอินทรีก็คงจะเห็นมันเข้าจนได้ มันรู้สึกถึงเงาที่เริ่มประทับอยู่ตรงหลังและเริ่มได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของอินทรี มันยืนหยัดทรงตัวรับแรงกระแทก อินทรีตระคุบลงมา หนูกระโดดหมดสติหลับไป
หลังจากนั้นไม่นาน มันก็ตื่นขึ้นมาด้วยความประหลาดใจที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ตอนนี้มันเริ่มมองเห็นอีกครั้ง ทุกอย่างดูพร่ามัวไปหมด แต่เห็นเป็นสีสันที่งดงามมาก
“ฉันเห็นได้แล้ว ฉันเห็นได้แล้ว” หนูกระโดดพูดย้ำกับตัวเอง
และเริ่มเห็นรูปเห็นร่างของอะไรบางอย่างที่เดินเข้ามาหามัน แม้จะพยายามเพ่งมองเท่าไรก็ตามภาพข้างหน้าก็ยังไม่ชัด
“สวัสดี น้องชาย” เสียงนั้นทัก “เธออยากได้ยาวิเศษไหม?”
“มียาวิเศษให้ฉันบ้างเหรอ?” มันถาม “เอาสิ เอา”
“ถ้าอย่างนั้นให้เจ้าหมอบให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยนะ แล้วกระโดดให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้” เสียงนั้นแนะนำ
หนูกระโดดก็ทำตามที่บอก มันหมอบตัวลงต่ำเท่าที่จะทำได้แล้วกระโดด! สายลมพัดพาเอามันเหินขึ้นไปด้วย
“จงอย่ากลัว” เสียงนั้นบอกตามมาอีก “เกาะลมนั้นไปและจงวางใจ”
หนูกระโดดทำตามนั้น มันหลับตาและเกาะลมนั้นไป สูงขึ้นและสูงขึ้นเรื่อยๆ
พอมันลืมตา ภาพที่เห็นก็ชัดขึ้นเริื่อย ยิ่งขึ้นไปสูงเท่าไร ภาพที่เห็นก็ชัดขึ้นไปอีก
มันมองเห็นเพื่อนเก่าที่นั่งอยู่บนใบบัวในทะเลสาบทิพย์ มันคือเจ้ากบนั่นเอง
กบร้องบอกมาว่า “เจ้ามีชื่อใหม่แล้วนะ เจ้าคือพญาอินทรี!”
:: จบบริบูรณ์ ::
No comments:
Post a Comment