ของขวัญอันลํ้าค่าที่เราจะมอบให้กับโลกใบนี้ได้ คือ ตัวเราที่แท้จริง

"The gift you carry for others 
ของขวัญที่คุณนำมามอบให้ผู้อื่น
is not an attempt to save the world 
มิใช่ความพยายามรักษาโลกเอาไว้
but to fully belong to it. 
แต่คือการเป็นของโลกอย่างเต็มเปี่ยม

It's not possible to save the world by trying to save it. 
เราจะรักษาโลกด้วยความพยายามได้อย่างไร
You need to find what is genuinely yours to offer the world 
เธอต้องค้นหาว่าอะไรคืออัจฉริยภาพที่เธอมอบให้โลกได้
before you can make it a better place. 
ก่อนที่เธอจะทำอะไรให้โลกดีขึ้น

Discovering your unique gift to bring to your community
การค้นพบของขวัญพิเศษแล้วนำมันกลับมาสู่ชุมชนของเธอ
is your greatest opportunity and challenge.
คือ โอกาสที่ดีที่สุด และท้าทายที่สุด ที่เธออาจมี

The offering of that gift — your true self —
การมอบของขวัญชิ้นนั้น - ตัวตนที่แท้จริงของเธอ -
is the most you can do to love and serve the world.
คือสิ่งที่คุณทำได้มากที่สุด เพื่อจะแสดงความรักและรับใช้โลกนี้
And it is all the world needs."
และมันคือทั้งหมดที่โลกจะต้องการจากเธอ

จาก Soulcraft  โดย Bill Plotkin

เจ้าหนูกระโดด: ตอนที่ 1

 กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีเจ้าหนูตัวหนึ่ง มันยุ่งอยู่กับการเสาะหาอาหารทุกที่ อาศัยหนวดและจมูกที่ว่องไว ดมนั่นดมนี่ไปทั่ว ทั้งพุ่มหญ้าและซอกดิน ไม่ต่างจากหนูทั่วไปที่มีชีวิตง่วนอยู่กับกิจธุระแบบหนูๆ นั่นแหล่ะ

แต่แล้ววันหนึ่ง มันกลับเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ..  มันจะเชิดหัวขึ้นสูงแล้วเพ่งมองไปรอบๆ พร้อมกับขยับหนวดขยุกขยิกไปมาเพื่อค้นหาที่มาของเสียงประหลาดนี้ จนกระทั่งวันหนึ่งที่มันรู้สึกทนต่อไปไม่ได้แล้ว จึงกระโดดเข้าไปถามเพื่อนหนูที่อยู่ใกล้ๆ ว่า

"นี่ๆ พี่ชาย หูของนายได้ยินเสียงอะไรคำรามบ้างไหม"
“ไม่นี่ ไม่เลย" หนูอีกตัวตอบโดยไม่ละจมูกที่คุ้ยหาเศษอาหารขึ้นจากพื้นดิน "ไม่ได้ยินอะไรเลย ตอนนี้ฉันยุ่ง ไว้ค่อยคุยเถอะ"
มันจึงไปถามหนูอีกตัวด้วยคำถามเดียวกัน หนูตัวนั้นมองมันแปลกๆ "นี่สมองเธอกลวงไปแล้วรึ๊ เสียงอาไร้" ถามแล้วหนูตัวนั้นก็วิ่งหายไปในช่องระหว่างต้นฝ้ายที่ล้มอยู่

เจ้าหนูกระโดด: ตอนที่ 2


เจ้าหนูน้อยค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ๆแม่น้ำแล้วชะโงกมองไปที่น้ำแล้วเห็นเงาสะท้อนของหนูที่ดูกลัวๆอยู่บนน้ำ

“เจ้าคือใครน่ะ?” หนูน้อยถาม “เจ้าไม่กลัวที่ต้องออกมาอยู่แถวแม่น้ำที่ยิ่งใหญ่และไกลจากบ้านขนาดนี้หรือไง?”

“ไม่” กบตอบ “ฉันไม่กลัวหรอก ฉันได้รับของขวัญมาตั้งแต่ตอนเกิดให้สามารถอยู่ทั้งเหนือน้ำและในน้ำได้ ในยามที่เหมันตบุรุษมาเยือนและแช่แข็งพลังวิเศษนี้ ก็จะไม่มีใครมองเห็นฉัน แล้วอีกไม่นานเมื่อนกสายฟ้าบินมาเยือน ฉันก็กลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง ถ้าอยากจะมาเยี่ยมเยี่ยนฉันล่ะก็ เธอต้องมายามที่ฤดูกาลเป็นสีเขียวนะ น้องชายที่รักฉันคือผู้ปกปักษ์น้ำ”

เจ้าหนูกระโดด: ตอนที่ 3


ในขณะที่มันกำลังสำรวจดินแดนใหม่แห่งนี้ มันก็ได้ยินเสียงหายใจหนักๆ มันเลยรีบหาที่มาของเสียงอย่างรวดเร็วแล้วก็พบว่าเป็นตัวอะไรสักอย่างที่ขนดกมาก แถมมีเขาด้วย มันคือควายป่าผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง เจ้าหนูกระโดดแทบไม่เชื่อสายตาว่าสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่จะมานอนให้เห็นอยู่เบื้องหน้าตัวเอง มันใหญ่มากจนหนูกระโดดสามารถคลานเข้าไปอยู่ในวงของเขาได้เลย “เป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ” มันคิดในใจ แล้วคืบคลานเข้าใกล้อีกนิด

“สวัสดีพี่ชาย” หนูกระโดดทัก “ทำไมท่านจึงมานอนอยู่อย่างนี้ล่ะ?”

“ฉันป่วยและใกล้จะตายแล้ว” กระทิงระพึง

เจ้าหนูกระโดด: ตอนจบ


แล้วหนูกระโดดก็รีบเริ่มสำรวจที่ใหม่แถวนั้นทันที ที่นี่มีสิ่งต่างๆมากกว่าที่อื่นๆเสียอีก

มีเมล็ดธัญพืชมากมายและทุกอย่างที่หนูชอบ พอสำรวจไปสักพักก็ไปเจอหมาป่าสีเทาตัวหนึ่งนั่งนิ่งๆอยู่เฉยๆ

“สวัสดีจ้า พี่หมาป่า” หนูกระโดดทัก

หูของหมาป่าตั้งผึ่งขึ้น ตาก็เปล่งประกาย “วู้ฟ วู้ฟ ใช่ ฉันคือหมาป่า” แต่สักพักเสียงก็หรึ่เบาลง แล้วมันก็กลับไปนั่งเงียบเชียบเหมือนเดิม และหลงลืมว่ามันคือใคร เวลาหนูกระโดดเตือนให้มันจำได้ว่ามันคือใคร มันก็จะตื่นเต้นกับถ้อยความใหม่ที่ได้รับ แต่แล้วก็จะหลงลืมไปอีกทุกครั้ง

“ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่งดงามยิ่ง” หนูกระโดดรำพึง “แต่เสียดายที่ไม่มีความทรงจำเลย”
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...