“เราจะจัดการอัตตาคนพวกนี้ยังงัยดีี”
เมื่อคืนผมได้รับโทรศัพท์จากคุณหมอคนหนึ่ง ซึ่งต้องการเชิญผมไปจัดอบรมให้กับบุคลากรของโรงพยาบาล ของตน เพื่อพัฒนาการทำงานเป็นทีม และเพิ่มประ-สิทธิภาพขององค์กร
คุณหมอแสดงความหนักใจเล็กน้อยว่า “คนที่สน เขาก็มักจะมาเข้าอบรมแบบนี้เป็นประจำ ส่วนที่ไม่สนใจ ก็จะไม่มากันเลย พวกนี้อัตตาเยอะ คิดว่าตัวเองรู้แล้ว โดยเฉพาะพวกหมอหรือพยาบาลบางคน เราจะทำอย่างไรดี กับอัตตาของคนเหล่านี้” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ อัตตาของผู้คนตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยของโครงการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาองค์กร ในประสบการณ์ของผม มันมักจะมี “กลุ่มคน” ที่ไม่เข้าใจเรา (และเราก็ไม่เข้าใจเขา) ต่อต้านความพยายามของเราอยู่ในที และเราเองก็ไม่อยากจะยุ่งหรือไปคลุกคลีตีโมงกับคนเหล่านี้ โดยหาทางจะจัดการคนเหล่านี้อย่างห่างๆ ผ่านยุทธวิธีต่างๆเท่าที่จำทำได้ ยกเว้นการทำความเข้าใจกับคนเหล่านี้จริงๆ
อาจเป็นเพราะ เรามักเข้าใจเอาเองว่า “คนพวกนี้ไม่เคยเปลี่ยนและคงจะไม่เปลี่ยนไปมากกว่านี้” ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือว่า อีกฝั่งหนึ่งก็คิดกับเราอย่างนี้เช่นกัน ว่าเราก็เป็นพวกหัวทื่อหัวดื้อ เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เคยคิดจะเปลี่ยน เป็นพวกที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ!
เมื่อเป็นเช่นนี้ หลายองค์กรหาทางออกด้วยการบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว อัตตาเหล่านี้จะไม่เคยเรียนรู้อะไรใหม่ๆเลย แล้วขบวนการต่อต้านทั้งแบบเปิดเผยหรือต่อสู้แบบใต้ดินก็ดำเนินต่อไประหว่างอัตตาสองขั้ว ระหว่างของเรากับของเขา กลายปมความสัมพันธ์เชิงอัตตา หากเราเปลี่ยนความสัมพันธ์นี้ได้ สิ่งต่างๆก็จะเริ่มเปลี่ยน
เพียงแค่เรากล้าเข้าไปซักถามและรับฟังความคิดเห็นที่เขามีต่อเราหรือสิ่งต่างๆ ก็จะคลี่คลายความคลุมเคลือ หรือความไม่รู้ที่เรามีเกี่ยวกับเขา ช่วยให้เราไม่เอาแต่คิดเอาเองว่าเขา เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
การเข้าไปเกาะติด “ความเป็นอื่น” แล้วทำความเข้าใจมุมมองของเขาจนเราเข้าใจอย่างถ่องแท้นี้เป็นกระบวนท่าที่สำคัญต่อการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นที่ตัวเรา
เราจะพบเองว่าอุปสรรคสำคัญที่ขวางกั้นเราไม่ให้เข้าไปรับรู้โลกภายในของเขา คือ การตีความ ตัดสินและแปลกแยก หรือแม้แต่ความกลัวของเราเอง
เมื่อ “เราไม่อยากเปลี่ยนแปลง” เราจึงอยากให้ “คนอื่น”เหล่านั้นในองค์กรเปลี่ยน แปลงให้เราทั้งๆที่อำนาจแห่งการเปลี่ยนแปลง นั้นดำรงอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว
• สานสัมพันธ์ด้วยสันติ การเป็นคนกลางตามแนวทางการสื่อสารอย่างสันติ
โดย กัญญา ลิขนสุทธิ์
- ขั้นที่ 2 : 3 - 4 ก.ค. 53
- ขั้นที่ 3 : 13 - 15 ส.ค. 53
**รับเฉพาะผู้ที่ผ่านการอบรม สานสัมพันธ์ด้วยสันติ ขั้นที่ 1 มาแล้วเท่านั้น**
• แปลรักเป็นความ Love in Translation
โดย กัญญา ลิขนสุทธิ์ และ ณัฐฬส วังวิญญู
- ครั้งที่ 1 : 11 - 12 ก.ย. 53
มาทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคู่รัก เข้าใจความรู้สึก และความต้องการของตัวเองและคนรักของเรา ฝึกแปลสิ่งเหล่านี้ให้เป็นความพูดที่มีความหมาย ที่ช่วยทำให้ความรักของเรามีพื้นฐานของความเข้าใจที่มั่นคงและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
• เปลี่ยนได้ ไม่เสียหน้า Change Without Shame
ห้องอบรมย่อยในงานประชุม “สานจิตรเสวนา 2”
โดย ณัฐฬส วังวิญญู และทีมงานขวัญแผ่นดิน
- วันที่ 25 มิ.ย. 53: เวลา 13.30 - 16.30 น.
สัมผัสและเข้าใจโลกภายในของตนเอง ผ่านกระบวนการ เรียนรู้ภายใน เพื่อให้มองว่าในกระบวนการเปลี่ยนแปลง และเติบโต นั้น อาจไม่ได้มาจากความรู้สึกผิด หวาดกลัว หรืออับอายขายหน้า หากแต่มาจากการได้รับการมองเห็นและรับรู้อย่างให้เกียรติ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ >> www.thaissf.org/register
• สันติภาพในสยามจะสร้างอย่างไร
วงเสวนาย่อยใน “การประชุมสันติภาพโลก ครั้งที่ 3 World Peace Congress 2010”
โดย ณัฐฬส วังวิญญู และทีมงานขวัญแผ่นดิน
- วันที่ 9 - 11 ก.ค. 53 ณ จ.นครนายก
ไม่คิดค่าใช้จ่าย (บริจาคสมทบทุนการจัดงานตามศรัทธา)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนได้ที่ >> worldpeacecongress.info/
No comments:
Post a Comment